25 มิถุนายน 2014
คาดตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งหลังปี 2557 ฟื้นตัว...หลังจากนโยบายลงทุนภาครัฐชัดเจน
(กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2516)
แนวโน้มของตลาดวัสดุก่อสร้างตลอดทั้งปี 2557 อาจมีมูลค่ายอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างขยายตัวในอัตราที่ไม่สูงนัก
เนื่องจากการเติบโตของยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างขึ้นอยู่กับทิศทางของอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหลัก
ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2557
กิจกรรมการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและเอกชนมีทิศทางชะลอตัวลงจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ
ส่งผลให้ขั้นตอนการเบิกจ่ายในโครงการของภาครัฐประสบปัญหาล่าช้า
โดยเฉพาะในโครงการใหม่ๆ ส่วนโครงการของภาคเอกชนมีการชะลอลงทุนลงเช่นกัน
เพราะนโยบายการลงทุนของภาครัฐที่จะเอื้อหนุนต่อภาคเอกชนขาดความชัดเจน
บวกกับสภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวจากการขาดปัจจัยบวกและยังเผชิญกับปัจจัยฉุดรั้งอีก
ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวและค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ซึ่งมีผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อหรือลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ลง
อย่างไรก็ดี หากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) สามารถผลักดันให้โครงการขนาดใหญ่เริ่มมีกิจกรรมการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง
2557 จะช่วยขับเคลื่อนการเบิกจ่ายเพื่อการลงทุนในโครงการต่างๆปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ การมีนโยบายลงทุนที่มีความชัดเจนมากขึ้นจากทางคสช.
อาจทำให้บรรยากาศความเชื่อมั่นในการลงทุนค่อยๆดีขึ้น
มีผลให้ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มเดินหน้าลงทุน
ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้เกิดความต้องการวัสดุก่อสร้างสูงขึ้นตามมา
นอกจากปัจจัยข้างต้น
ตลาดวัสดุก่อสร้างยังมีแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยบวกที่สำคัญอีก 2 ด้าน คือ
1)การเติบโตของตลาดวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในกิจกรรมซ่อมแซมและตกแต่ง
เพราะในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2557
ที่ผ่านมา
มีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สร้างความเสียหายต่ออาคาร/สิ่งปลูกสร้างหลายครั้ง
เช่น
เหตุการณ์แผ่นดินไหวทางภาคเหนือของไทยและการเกิดพายุฤดูร้อนที่มีผลให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนฟ้าคะนอง
ทั้งนี้ ความต้องการของสินค้าวัสดุก่อสร้างในหมวดซ่อมแซมและตกแต่งที่ขยายตัวจะมีส่วนช่วยพยุงการชะลอตัวของอุปสงค์สินค้าวัสดุก่อสร้างในปีนี้
2)ยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างเติบโตในจังหวัดชายแดนและพื้นที่ใกล้เคียง
ซึ่งมีผลจากการขยายตัวของเมืองและการเติบโตของร้านค้าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว
เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในกลุ่มประเทศ
CLM (กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมาร์)
ประกอบกับสินค้าวัสดุก่อสร้างของไทยได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มประเทศเหล่านี้
บวกกับเส้นทางคมนาคมในปัจจุบันมีความสะดวกแล้ว จึงทำให้ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้เดินทางเข้ามาซื้อฝั่งไทยมากขึ้น
ด้วยเหตุจากปัจจัยบวกและปัจจัยท้าทายข้างต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่ายอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างภายในประเทศตลอดทั้งปี 2557 อาจมีมูลค่าประมาณ 580,000 – 592,200 ล้านบาท
ขยายตัวร้อยละ 0.1 - 2.2 จากปี 2556 (ที่ประเมินไว้ว่าเติบโตร้อยละ
4.0)
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก...ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น